วันอังคารที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2554
สภาพอากาศมาบตาพุดยังไม่ดีขึ้น - รายงานของ มกราคม 2554 แล้ววันนี้ อยู่ตรงไหน
04:09
สภาพอากาศมาบตาพุดยังไม่ดีขึ้น กรมควบคุมมลพิษชี้ค่าสารอินทรีย์ระเหยง่ายในบรรยากาศรายปียังเกินมาตรฐาน เตรียมดันให้เอกชนลดมลพิษ
นายสุพัฒน์ หวังวงศ์วัฒนา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า จากการเฝ้าระวังสารอินทรีย์ระเหยง่ายในบรรยากาศ (วีโอซี) ในเขตพื้นที่มาบตาพุด ที่ตรวจวัดปริมาณวีโอซีในบรรยากาศ 7 แห่ง คือ สถานีอนามัยมาบตาพุด วัดมาบชะลูด โรงเรียนวัดหนองแฟบ สถานีเมืองใหม่มาบตาพุด ชุมชนบ้านเพลง ศูนย์บริการสาธารณสุขบ้านตากวน และหมู่บ้านนพเกตุ ตั้งแต่เดือน ก.ย. 2549 - เม.ย.2553 โดยได้นำมาคำนวณหาค่าเฉลี่ยใน 1 ปี และเปรียบเทียบกับค่ามาตรฐาน พบว่าสถานการณ์ในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ยังมีสารวีโอซีที่มีค่าความเข้มข้นเกินค่ามาตรฐานเฉลี่ยรายปี ได้แก่
สาร 1, 3- บิวทาไดอิน ตรวจพบเกินมาตรฐานบริเวณสถานีอนามัยมาบตาพุด และศูนย์บริการสาธารณสุขบ้านตากวน 0.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) จากค่ามาตรฐานรายปี 0.33 มคก./ลบ.ม. สาร 1,2-ไดคลอโรอีทเธน ตรวจพบเกินมาตรฐานบริเวณสถานีอนามัยมาบตาพุด วัดมาบชะลูด สถานีเมืองใหม่มาบตาพุด ชุมชนบ้านเพลง และศูนย์บริการสาธารณสุขบ้านตากวน ส่วนสารเบนซีน ตรวจพบเกินมาตรฐานบริเวณสถานีอนามัยมาบตาพุด สถานีเมืองใหม่มาบตาพุด ชุมชนบ้านเพลง ศูนย์บริการสาธารณสุขบ้านตากวน และหมู่บ้านนพเกตุ โดยเฉพาะที่สถานีเมืองใหม่มาบตาพุด สูงสุด 4.0 มคก./ลบ.ม. จากค่ามาตรฐานรายปี 1.7 มคก./ลบ.ม. แต่ทั้งหมดก็ยังถือว่ามีค่าความเข้มข้นลดลงจากช่วงปีที่ผ่านมา
แม้ว่าทั้ง 3 สาร จะยังเกินมาตรฐาน แต่เชื่อว่าถ้าเอกชนโดยเฉพาะผู้ประกอบการด้านปิโตรเคมีและโรงไฟฟ้า โรงกลั่นน้ำมัน มีการลงทุนและเทคโนโลยีเพื่อควบคุมไอระเหยออกมาได้ทั้งหมด ภายในปี 2556 ก็จะทำให้ปัญหาวีโอซีลดลงได้
สำหรับแผนลดมลพิษของเอกชนนั้น เบื้องต้นมีเอกชนเสนอแผนมาแล้วรวม 39 โครงการ จากเป้าหมายทั้งหมด 138 โรงงาน ในนิคมมาบตาพุด และบ้านฉาง ทั้งหมด รวมวงเงิน 1.3 พันล้านบาท ที่เอกชนต้องลงทุนเอง ส่วนใหญ่เน้นเรื่องการลดมลพิษการปล่อยสารวีโอซี ตามจุดควบคุมและการวางระบบทางด้านเทคโนโลยี.- สำนักข่าวไทย
นายสุพัฒน์ หวังวงศ์วัฒนา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า จากการเฝ้าระวังสารอินทรีย์ระเหยง่ายในบรรยากาศ (วีโอซี) ในเขตพื้นที่มาบตาพุด ที่ตรวจวัดปริมาณวีโอซีในบรรยากาศ 7 แห่ง คือ สถานีอนามัยมาบตาพุด วัดมาบชะลูด โรงเรียนวัดหนองแฟบ สถานีเมืองใหม่มาบตาพุด ชุมชนบ้านเพลง ศูนย์บริการสาธารณสุขบ้านตากวน และหมู่บ้านนพเกตุ ตั้งแต่เดือน ก.ย. 2549 - เม.ย.2553 โดยได้นำมาคำนวณหาค่าเฉลี่ยใน 1 ปี และเปรียบเทียบกับค่ามาตรฐาน พบว่าสถานการณ์ในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ยังมีสารวีโอซีที่มีค่าความเข้มข้นเกินค่ามาตรฐานเฉลี่ยรายปี ได้แก่
สาร 1, 3- บิวทาไดอิน ตรวจพบเกินมาตรฐานบริเวณสถานีอนามัยมาบตาพุด และศูนย์บริการสาธารณสุขบ้านตากวน 0.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) จากค่ามาตรฐานรายปี 0.33 มคก./ลบ.ม. สาร 1,2-ไดคลอโรอีทเธน ตรวจพบเกินมาตรฐานบริเวณสถานีอนามัยมาบตาพุด วัดมาบชะลูด สถานีเมืองใหม่มาบตาพุด ชุมชนบ้านเพลง และศูนย์บริการสาธารณสุขบ้านตากวน ส่วนสารเบนซีน ตรวจพบเกินมาตรฐานบริเวณสถานีอนามัยมาบตาพุด สถานีเมืองใหม่มาบตาพุด ชุมชนบ้านเพลง ศูนย์บริการสาธารณสุขบ้านตากวน และหมู่บ้านนพเกตุ โดยเฉพาะที่สถานีเมืองใหม่มาบตาพุด สูงสุด 4.0 มคก./ลบ.ม. จากค่ามาตรฐานรายปี 1.7 มคก./ลบ.ม. แต่ทั้งหมดก็ยังถือว่ามีค่าความเข้มข้นลดลงจากช่วงปีที่ผ่านมา
แม้ว่าทั้ง 3 สาร จะยังเกินมาตรฐาน แต่เชื่อว่าถ้าเอกชนโดยเฉพาะผู้ประกอบการด้านปิโตรเคมีและโรงไฟฟ้า โรงกลั่นน้ำมัน มีการลงทุนและเทคโนโลยีเพื่อควบคุมไอระเหยออกมาได้ทั้งหมด ภายในปี 2556 ก็จะทำให้ปัญหาวีโอซีลดลงได้
สำหรับแผนลดมลพิษของเอกชนนั้น เบื้องต้นมีเอกชนเสนอแผนมาแล้วรวม 39 โครงการ จากเป้าหมายทั้งหมด 138 โรงงาน ในนิคมมาบตาพุด และบ้านฉาง ทั้งหมด รวมวงเงิน 1.3 พันล้านบาท ที่เอกชนต้องลงทุนเอง ส่วนใหญ่เน้นเรื่องการลดมลพิษการปล่อยสารวีโอซี ตามจุดควบคุมและการวางระบบทางด้านเทคโนโลยี.- สำนักข่าวไทย
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
จำนวนการดูหน้าเว็บรวม
บทความที่ได้รับความนิยม
-
Fire Explosion in Thai Oil Safety Lesson Learned: Fire Explosion in Thai Oil Location of Incident: Thailand ไฟไหม้ถังเก็บน้ำมันไทยออยส์ ปี 1...
-
องค์การสหประชาชาติ (United Nations) ได้กำหนดให้วันที่ 5 มิถุนายน ของทุกปีเป็นวันสิ่งแวดล้อมโลกโดยมีวัตถุประสงค์ในการรณรงค์และรักษาสิ่งแวดล้อ...
-
ความมักง่ายบกพร่องอย่างกว้างขวางและทำเป็นระบบ เลิกใส่ใจถามไปเลย เรื่อง CSR กับภาคอุตสาหกรรมมักง่าย แค่เพียงสำนึกง่ายๆ โรงงานเสี่ยงมากมาย ที่...
รายการบล็อกของกลุ่มพิทักษ์อากาศสดชื่น
ขับเคลื่อนโดย Blogger.