วันศุกร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
ภูเขาไฟ “เมราปี” - ระเบิดครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 100 ปี
21:28
เอเอฟพี - ภูเขาไฟ “เมราปี” ในอินโดนีเซียซึ่งคุกรุ่นและปะทุอยู่เป็นระยะๆ ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ได้เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 100 ปีเมื่อช่วงเช้าวันศุกร์(5) ปลดปล่อยขี้เถ้า, ม่านเมฆความร้อนสูงจัด, และลาวาหลอมละลาย ออกมาอย่างทะลักทลาย ทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 77 คน จนยอดรวมของคนที่ตายจากฤทธิ์เดชของมันในระลอกนี้ทะลุเกินกว่า 100 คนแล้ว นอกจากนั้นยังทำให้บ้านเรือนจำนวนมากเกิดไฟลุกไหม้ และผู้คนนับหมื่นนับแสนต้องอพยพหนีตายไปอยู่ในสถานที่ปลอดภัย
ซากศพของสัตว์ที่ตายเพราะเหตุภูเขาไฟ “เมราปี”
ได้เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 100 ปีเมื่อช่วงเช้าวันศุกร์(5 พ.ย. 53)
ภูเขาไฟเมราปี ได้พ่นขี้เถ้า, กลุ่มเมฆความร้อนที่อุณหภูมิสูงจัดถึงตาย, ตลอดจนลาวาหลอมละลายออกมา รวมทั้งพ่นพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าสูงละลิ่ว แทบตลอดทั้งคืนวันพฤหัสบดี(4) และต่อเนื่องถึงเช้าวานนี้
เถ้าภูเขาไฟสีเทาขุ่นปกคลุมเป็นอาณาบริเวณกว้างขวาง รวมทั้งในพื้นที่เมืองยอกยาการ์ตา เมืองหลวงของจังหวัดชวากลาง ซึ่งอยู่ห่างจากภูเขาไฟลูกนี้ไปทางใต้ประมาณ 28 กิโลเมตร ขณะเดียวกันการสำแดงฤทธิ์ครั้งล่าสุดของเมราปี ก็ทำให้ผู้คนจำนวนมากแตกตื่นพากันหนีตายในท่ามกลางความมืด จนการสัญจรตามถนนหนทางในแถบดังกล่าวติดขัดวุ่นวายไปหมด
เฮรู นูโกรโฮ ผู้ทำหน้าที่เป็นโฆษกให้แก่โรงพยาบาลซาร์จิโต ในยอกยาการ์ตา แถลงในช่วงเย็นว่า ผู้ที่เสียชีวิตเมื่อวานนี้เท่าที่รวบรวมได้มี 77 คน โดย 10 คนเป็นเด็กอายุต่ำว่า 10 ขวบ
เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือฉุกเฉินตลอดจนผู้เห็นเหตุการณ์หลายรายระบุว่า มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากที่หมู่บ้านอาร์โกมุลโย ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากภูเขาไฟลูกนี้ราว 18 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือฉุกเฉินผู้หนึ่งเล่าว่าพบศพพ่อ-แม่-ลูก 3 คนยังคงอยู่บนเตียง ซึ่งแสดงว่านอนหลับอยู่ขณะเถ้าถ่านร้อนจัดพุ่งมายังบ้านของพวกเขา นอกจากนั้นยังศพชายผู้เสียชีวิตรายหนึ่งยังถือโทรศัพท์มือถืออยู่ ส่วนเจ้าหน้าที่อีกคนหนึ่งบอกว่า หมู่บ้านแห่งนี้ถูกม่านเมฆที่ร้อนจัดเผาผลาญจนราบเรียบ ตอนที่เขาไปถึงหมู่บ้านแห่งนั้น พื้นดินที่นั่นยังคงร้อนระอุ
การระเบิดครั้งล่าสุดของเมราปี ทำให้จำนวนผู้อพยพหนีภัยเพิ่มขึ้นมาเป็นเกินกว่า 100,000 คน โดยที่มี 30,000 คนถูกโยกย้ายไปอยู่ในสนามกีฬาซึ่งห่างจากภูเขาไฟราว 25 กิโลเมตร
ทางด้านท่าอากาศยานนานาชาติที่ยอกยาการ์ตา ต้องปิดทำการเนื่องจากเถ้าภูเขาไฟพุ่งสูงลิ่วขึ้นไปบนท้องฟ้า
ภูเขาไฟเมราปีเคยสังหารชีวิตผู้คนไปราว 1,300 คนในปี 1930 แต่พวกผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ถึงแม้การปะทุระลอกล่าสุดนี้ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคม จะทำให้มีผู้เสียชีวิตรวมแล้วเพียงประมาณ 100 คนเศษๆ แต่เมื่อวัดจากวัสดุที่มันพ่นออกมาแล้ว ต้องถือว่าการระเบิดคราวนี้รุนแรงกว่าเมื่อปี 1930 เสียอีก และนับเป็นครั้งร้ายแรงที่สุดตั้งแต่ปี 1872 เป็นต้นมา
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
จำนวนการดูหน้าเว็บรวม
บทความที่ได้รับความนิยม
-
Fire Explosion in Thai Oil Safety Lesson Learned: Fire Explosion in Thai Oil Location of Incident: Thailand ไฟไหม้ถังเก็บน้ำมันไทยออยส์ ปี 1...
-
องค์การสหประชาชาติ (United Nations) ได้กำหนดให้วันที่ 5 มิถุนายน ของทุกปีเป็นวันสิ่งแวดล้อมโลกโดยมีวัตถุประสงค์ในการรณรงค์และรักษาสิ่งแวดล้อ...
-
ความมักง่ายบกพร่องอย่างกว้างขวางและทำเป็นระบบ เลิกใส่ใจถามไปเลย เรื่อง CSR กับภาคอุตสาหกรรมมักง่าย แค่เพียงสำนึกง่ายๆ โรงงานเสี่ยงมากมาย ที่...
Blog Archive
- 2012 (2)
- 2011 (17)
-
2010
(42)
- ธันวาคม(1)
-
พฤศจิกายน(11)
- จริงใจหรือแค่พูดให้ดูดี - นายกฯลั่นห้ามขยายอุตสาหก...
- ความมักง่ายบกพร่องอย่างกว้างขวางและทำเป็นระบบ เลิก...
- อุบัติเหตุ - ความมักง่าย หรือ แก้ปัญหาไม่ได้ ยามมี...
- โรงงานสารเคมีในจีน ระเบิด 21 พ.ย. 53
- เหมืองระเบิด เทคโนโลยี่ ดีแค่ไหน ก้อระเบิดได้
- ทุกที่มีมาตรฐานสูง ลงทุนสูงมาก ใช้เทคโนโลยี่สูงมาก...
- ศูนย์เตือนภัยพิบัติ แห่งชาติ'ไร้ประสิทธิภาพ - เก็บ...
- GREEN DIARY WEB น่าสนใจ
- มาบตาพุด แนะชาวบ้าน เผาขยะในชุมชน กลบกลิ่นพิษ โรงง...
- ภูเขาไฟ “เมราปี” - ระเบิดครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า...
- ใครๆ ก้ออยากมาลงทุนในไทย เพราะเวียตนามเจอภัยธรรมชา...
- ตุลาคม(14)
- กันยายน(9)
- สิงหาคม(7)
รายการบล็อกของกลุ่มพิทักษ์อากาศสดชื่น
ขับเคลื่อนโดย Blogger.
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น