วันอาทิตย์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2553
ปาฏิหาริย์แห่งเทคโนโลยี แผ่นดินไหว 7.1 ตาย 0 คน
09:42
“ตาย 220,000 ราย เหยื่อแผ่นดินไหวระดับ 7.0 ริกเตอร์ในเฮติ ณ มกราคม 2010” “เหยื่อแผ่นดินพิโรธ 6.9 ริกเตอร์ พุ่งถึง 2,000 ศพ ที่ตะวันตกเฉียงเหนือของจีนเดือนเมษายน 2010” “กว่า 500 ชีวิตสังเวยแผ่นดินไหว 8.8 ริกเตอร์ ที่ชิลี เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2010” | |||||
หายนะที่เกิดขึ้น ณ มูลค่ามากกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์ ส่วนใหญ่ประกอบด้วยแผ่นดินแยกเป็นแนวยาว รางรถไฟบิดเบี้ยวเสียหาย แต่ปรากฏว่าอาคารต่างๆ ส่วนใหญ่ไม่มีการพังทลายหรือยุบตัว และเหนืออื่นใด แม้จะมีรายงานถึงเหยื่อแผ่นดินไหวที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย แต่ไม่มีรายงานการเสียชีวิตในเหตุรุนแรงครั้งนี้!! นี่คือปาฏิหาริย์ หรือผลงานเชิงเทคโนโลยีกันแน่? เจ้าหน้าที่ระดับสูงแห่งเมืองไครสต์เชิร์ชให้ข้อมูลว่า ในเบื้องต้นเลยโชคดีที่การสะเทือนเลื่อนลั่นของแผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดในช่วงเช้ามืด ทำให้ลดความเสี่ยงไปได้อย่างมหาศาลในแง่ที่ว่าจะมีผู้คนบาดเจ็บล้มตายจากแผ่นดินแยก หรือกำแพงอาคารร่วงทับ และจึงกลายเป็นว่าเหยื่อที่โดนกำแพงอาคารร่วงทับกลับเป็นบรรดารถยนต์ที่จอดอยู่ข้างบ้าน โชคดีประการสำคัญมีอยู่ว่า ผู้คนส่วนใหญ่ยังอยู่ในอาคารบ้านเรือนซึ่งค่อนข้างปลอดภัย เป็นความปลอดภัยที่สวนทางอย่างยิ่งกับข้อเท็จจริงที่ว่า นิวซีแลนด์นั้นตั้งอยู่บนจุดเสี่ยงสูงของโลก โดยอยู่ในพื้นที่หัวแยกของแนวการเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลกสองแผ่น ทั้งหลายทั้งปวงนี้ ที่แท้แล้วเป็นผลจากการ “ลงทุน” สร้างระบบโครงสร้างความปลอดภัยไว้เมื่อราวสิบปีที่ผ่านมา หลังจากที่มีการรณรงค์ให้ตื่นตัวกับการป้องกันภัย ผ่านการสรุปบทเรียนราคาแพงที่นิวซีแลนด์เคยได้รับในกรณีธรณีพิโรธเมืองนาเปียร์ ปี 1931 อันเป็นมหาวิบัติแผ่นดินไหวสะท้านสะเทือนระดับ 7.8 ริกเตอร์ และคร่าชีวิตผู้คนไป 256 ราย ที่ฮอว์กส์ เบย์ | |||||
ในการนี้ อาคารที่ได้รับความเสียหายหนักๆ ในไครสต์เชิร์ช เป็นอาคารรุ่นเก่าที่สร้างจากวัสดุที่เกาะตัวกันแน่นหนา จนทำให้ไม่สามารถเอาตัวรอดได้ในยามแผ่นดินไหว เบิร์กเอาท์บอกว่านิวซีแลนด์เป็นหนึ่งในประเทศชั้นนำของโลกที่ได้รับการออกแบบให้ทนทานต่อภัยแผ่นดินไหว โดยที่สถาบัน BRANZ ได้จัดสร้างโรงงานวิจัยขนาดใหญ่ในเวลลิงตันไว้แสดงให้เห็นกันกับตาว่า บ้านหลังใหญ่ ไซส์จริงๆ นั้น สามารถรับแรงเขย่าแบบแผ่นดินไหวได้อย่างไร แม้แต่อาคารสำนักงานก็ถูกสร้างบนรากฐานที่มีลักษณะที่เหมือนกับอยู่บนการรองรับที่ซับแรงกระเทือนได้ ดังนั้น หากต้องเผชิญกับแรงสะเทือนของแผ่นดินไหวใหญ่ๆ อาคารเหล่านี้สามารถสั่นสะท้านไปทั่ว แต่ไม่ทลายตัวลงมา เท่ากับการลดโอกาสสร้างความเสียหายรุนแรงต่อร่างอันบอบบางของมนุษย์ที่อยู่ภายใน หรืออยู่ใกล้ๆ กับอาคารได้อย่างมหาศาล ต้องขอบคุณปาฏิหาริย์แห่งเทคโนโลยี และปาฏิหาริย์แห่งพลังใจผู้คนที่มองการณ์ไกลเพียงพอที่จะลงทุนเพื่อสร้างความปลอดภัยอย่างยั่งยืน อันเป็นคุณลักษณ์ที่หายากในประเทศต่างๆ ทั่วโลก |
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
จำนวนการดูหน้าเว็บรวม
บทความที่ได้รับความนิยม
-
Fire Explosion in Thai Oil Safety Lesson Learned: Fire Explosion in Thai Oil Location of Incident: Thailand ไฟไหม้ถังเก็บน้ำมันไทยออยส์ ปี 1...
-
องค์การสหประชาชาติ (United Nations) ได้กำหนดให้วันที่ 5 มิถุนายน ของทุกปีเป็นวันสิ่งแวดล้อมโลกโดยมีวัตถุประสงค์ในการรณรงค์และรักษาสิ่งแวดล้อ...
-
ความมักง่ายบกพร่องอย่างกว้างขวางและทำเป็นระบบ เลิกใส่ใจถามไปเลย เรื่อง CSR กับภาคอุตสาหกรรมมักง่าย แค่เพียงสำนึกง่ายๆ โรงงานเสี่ยงมากมาย ที่...
Blog Archive
- 2012 (2)
- 2011 (17)
-
2010
(42)
- ธันวาคม(1)
- พฤศจิกายน(11)
- ตุลาคม(14)
-
กันยายน(9)
- ดินทรุด ดอยแม่สลอง - เรื่องดินที่เข้าใจยาก
- โรงงานมาบตาพุด ไม่ต่างกับ ป้ายโฆษณา ขนาดใหญ่ อนุมั...
- ระทึก! ทาวน์เฮาส์ทรัพย์ยั่งยืนเมืองปากน้ำทรุด 16 ห...
- ท่อก๊าซระเบิด ในแคลิฟอร์เนีย อเมริกา 10 ก.ย. 53 สั...
- 7/11 ประเภทกิจกรรม-โครงการ ส่งผลกระทบรุนแรง หมกเม็...
- ข่าวเกินจริง ทำให้เข้าใจผิด บอกโรงกลั่นระเบิด ตาย1...
- ถังเก็บน้ำมัน ศรีราชา ระเบิด 5 ก.ย. 53 ลางร้ายใหม่
- ปาฏิหาริย์แห่งเทคโนโลยี แผ่นดินไหว 7.1 ตาย 0 คน
- ธรรมชาติ ที่หาความแน่นอนอะไรไม่ได้ ... !?
- สิงหาคม(7)
รายการบล็อกของกลุ่มพิทักษ์อากาศสดชื่น
ขับเคลื่อนโดย Blogger.
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น